คอนโซล / พีซีสกู๊ปพิเศษ

9 สาเหตุที่ทำให้คุณเริ่มเปิดศึกกับเพื่อนในเกม Dokapon

ดักแก่วัยรุ่นยุค PS1

ถ้าเพื่อนๆเป็นคนที่เติบโตมาในยุคของ PS1 ก็คงไม่มีทางที่จะไม่รู้จักเกม Dokapon ใช่ไหมครับ ซึ่งในประเทศไทยนั้นถือว่าเป็นเกมที่สนุกสุดมันส์เกมนึงเลยทีเดียว และเป็นที่รู้กันดีว่าเกมนี้นั้นได้รับฉายาว่าเกมสร้างความร้าวฉานแห่งยุคเลยทีเดียว นั่นก็เพราะว่าเกมนี้เป็นเกมที่มีระบบที่เอื้ออำนวยต่อการปะทะอารมณ์กันมากๆ ซึ่งในบทความนี้ ผมได้รวบรวมสาเหตุที่จะทำให้เพื่อนๆเปิดศึกกันได้คร่าวๆ 9 สาเหตุ เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรกันบ้าง

1. แย่งกันเลือกตัวที่อยากเล่น

ยังไม่ทันจะได้เริ่มเล่นเกมก็เริ่มเขม่นหน้ากันแล้วใช่ไหมล่ะ เมื่อการสุ่มลำดับการเล่นไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ มิหนำซ้ำเจ้าเพื่อนตัวดียังเลือกตัวที่เราอยากเล่น ตัวที่เราถนัดตัดหน้าเราไปซะก่อน ซึ่งตัวละครแต่ละตัวนั้นจะมีจุดเด่นจุดด้อยแตกต่างกันไป และเพื่อนๆแต่ละคนก็คงจะถนัดตัวละครหรือชอบตัวละครไม่เหมือนกันใช่ไหมครับ นี่เป็นสาเหตุแรกตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่มเกมที่ทำให้เราต้องเพ่งเล็งไอ้คนที่แย่งตัวที่เราอยากได้ไปครองก่อนเพื่อนเลย

2. เมืองนี่ของฉัน ใครอย่าแตะ!

แน่นอนว่าเกมนี้เป็นเกมที่มีระบบแย่งชิงเมืองกัน ทันทีที่เมืองว่างไร้เจ้าของ (ชื่อเมืองเป็นสีขาว) ก็ย่อมต้องมีคนเล็งไว้อย่างแน่นอน แล้วบางครั้งเมืองที่เป็นสีขาวเนี่ยมันเคยมีเจ้าของเก่ามาก่อน ซึ่งเจ้าของเก่าบางคนอาจจะถือวิสาสะคิดเองเออเองว่า เมืองนี้เป็นของฉัน ห้ามใครแย่ง เดี๋ยวฉันจะไปเก็บเอง ซึ่งเอาจริงๆแล้วจะมีคนฟังเหตุผลนี้กันทุกคนไหม (555+) คนส่วนมากก็มักจะมองว่าใครดีใครได้ และมักจะเกิดการปะทะกันในเกมขึ้นบ่อยๆ

3. ซวย! ทอยเต๋าไปโดนเพื่อนพอดี

ด้วยเกมที่ใช้ระบบ “ดวง” เป็นตัวนำทางแล้วนั้น การหลีกเลี่ยงการปะทะให้ได้ตลอดนั้นก็คงทำไม่ได้เสมอไป ยิ่งถ้าอยู่ในสถานะการที่กลืนไม่เข้าคลายไม่ออกอย่างทางเดินมีแค่เส้นตรง หรือโดน อีเวนท์ทำให้แผนที่มืด หรือแม้กระทั่งโดนคำสาปให้เดินได้ที่ละก้าว แล้วเจ้าเพื่อนตัวดีก็ยังอุตส่าห์มายืนอยู่ตรงหน้าอีกต่างหาก ก็คงต้องมีความจำเป็นต้องซัดกันซักตั้งว่าใครจะอยู่ใครจะไป

4. อีเวนท์บังคับให้เราต้องสู้กัน

ถ้าเล่นเกมนี้ในระยะยาวผมบอกได้เลยว่าไม่มีทางหลีกเลี่ยงอีเวนท์หลักอย่าง “ศึกชิงจ้าวยุทธภพ” ซึ่งนอกจากเราจะต้องหยุดภารกิจทุกอย่างแม้ว่าจะอยู่ในดันเจี้ยนชั้นสุดท้ายแล้ว เรายังต้องมาฟัดกันกับ “บรูซ ลี” ที่ Copy Status เรามาอย่างยิ่งใหญ่ แถมยังต้องซัดกับเพื่อนด้วยกันเองแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้ว่าจบอีเวนท์นี้ไปจะไม่ได้ส่งผลอะไรมากนัก แต่ผมเชื่อว่าความแคลงใจจากอีเวนท์นี้มันไม่ได้หมดตามไปด้วยอย่างแน่นอน (555+) ในอีเวนท์นั้นใครเคยทำอะไรใส่ใครไว้ ออกมานอกเวทีประลองยุทธ์ก็ต้องโดนเอาคืนกันบ้าง หรือถ้าใครที่ไม่มีไอเท็มเกี่ยวกับการเดินก็มีสิทธิ์ทอยเต๋าได้ 1 แล้วออกมาตีกันอีกต่อนึงอยู่ดี

5. บอสนี่แหละตัวดี!

ครบเครื่องเรื่องความป่วนสำหรับบอสที่จะร่ายมนต์หรือเสกคำสาปใส่เพื่อนๆอย่างไม่หยุดหย่อน แถมยังคอยรักษาสมดุลต่างๆด้วยความไม่พอดีของมันโดยการปรับเงิน เสกลูกน้อง บลาๆๆ ซึ่งหนึ่งในความป่วนของมันนั้นมีสิ่งหนึ่งที่ผมเกลียดที่สุดคือการวาร์ปทุกคนมาอยู่ในที่เดียวกัน! มีบอส 1 ตัวกับผู้เล่นอีก 4 คนอยู่ในเมืองเดียวกัน นอกจากจะต้องแย่งกันตีบอสแล้ว เสร็จเรื่องผู้เล่นก็ต้องมาตบกันอีก เหมือนหาผู้อยู่รอดที่แข็งแกร่งที่สุดยังไงยังงั้น

6. อ้าวเห้ย! ไม่เหมือนที่ตกลงกันไว้นี่หว่า!

ผมรู้ว่าเพื่อนๆคงจะเคยเล่นเกมนี้แล้วมีการเจรจาตกลงกันทางธุรกิจมาบ้างใช่ไหมล่ะ เช่น “เมืองนี้ฉันขอเมืองนั้นนายเอาไป” หรือว่า “นายเป็นปีศาจให้เราฆ่าเอาดาบได้ปะ แล้วคราวหน้าเราจะเป็นให้” แต่พอถึงเวลาเข้าจริงๆก็ไม่ได้ทำอย่างที่พูด อาจจะเพราะความจำเป็นที่ไม่สามารถทำได้ ความพร้อมยังไม่ชัว หรือการไม่อยากทำเพราะเกรียนก็ตาม สิ่งนี้แหละที่สร้างความร้าวฉานได้ดีที่สุดในเกมนี้ ซึ่งบางครั้งแทบจะไม่จบแค่ในเกมก็มีนะ

7. ค่าหัวมันแพงกว่าคำว่าเพื่อน

ผมเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนคงมีความกล้าที่จะปล้นร้านต่างๆ เพราะค่าตอบแทนนั้นค่อนข้างสูงเลยทีเดียว แต่ถ้าปล้นแล้วเป่ายิ้งฉุบแพ้ก็ซวยไม่แพ้กันนะ! โดยเราจะถูกตั้งค่าหัวให้ผู้เล่นออกตามล่า ซึ่ง ณ เวลานั้นคุณจะต้องตกเป็นเป้าหมายของทุกคนในเกม ยิ่งค่าหัวสูงเท่าไหร่แรงกระตุ้นให้ฆ่าก็ยิ่งมากตามไปด้วย เพราะงั้นคำว่าเพื่อนก็จะเล็กลงตามค่าหัวที่สูงขึ้นและจะไม่มีการปราณีสำหรับค่าหัวหลักแสนหรือหลักล้าน (เพื่อนมันก็เห็นกันตรงนี้ล่ะ 555+)

8. ความเหลื่อมล้ำทางสังคมเริ่มเด่นชัด

พอเล่นไปได้สักพักก็เริ่มจะเห็นความแตกต่างของผู้เล่นแต่ละคน ว่าใครเป็นผู้นำใครเป็นผู้ตาม ไม่ต้องไปถึงกับเห็นเงินหลักล้านก็ได้ แค่เกาะ 3 เกาะ 4 ก็เริ่มจะเห็นความแตกต่างกันแล้ว เพราะคนที่วางรากฐานดีมาตั้งแต่ต้นก็จะเป็นผู้นำในการกำจัดบอสอยู่เสมอ ส่วนคนที่ชีวิตลำเค็ญมาตั้งแต่แรกก็จะยังคงเป็นอย่างนั้นต่อไป การพลิกตัวกลับมาให้เทียบเท่าคนที่กำลังนำอยู่นั้นเป็นไปได้ยากมาก เพราะงั้นคนที่อยู่อันดับสุดท้ายหรือตกต่ำที่สุดในเกม มักจะเริ่มมีความคิดที่จะตัดใจตามเพื่อนและหันมาสร้างความปั่นป่วนแทน เพราะไหนๆก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ขอเล่นสนุกให้เต็มที่หน่อยละกัน (แล้วก็หมั่นไส้กัน)

9. นิสัยส่วนตัวของผู้เล่น

คนที่เล่นเกมนี้มาสักพักนึงแล้วจะรู้ดีว่า เกมนี้ไม่ใช่เกมที่ขาวสะอาดขนาดนั้น (555) คนส่วนใหญ่ที่มีประสบการณ์ก็จะวางแผนป้องกันหรือตอบโต้การกระทำของผู้อื่นไว้ตามสไตล์ของตัวเองอยู่แล้ว ซึ่งก็มีผู้เล่นจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าการป่วนหรือการสู้กันเองนั้นคือสิ่งที่สนุกในเกมนี้ ซึ่งก็ทำให้ผู้เล่นสายชิล สายผ่านด่าน สายสบายๆนั้นเริ่มมีความไม่พอใจเกิดขึ้นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะงั้นจะเลือกใครมาเล่นเกมนี้ด้วย โปรดดูลักษณะนิสัยส่วนตัวของเพื่อนด้วยนะครับ จะได้ไม่ทะเลาะกัน

เป็นยังไงกันบ้างครับ ทั้ง 9 ข้อที่ผมกล่าวมานี้ตรงกับสิ่งที่เพื่อนๆเคยประสบพบเจอกันมาบ้างหรือเปล่า ซึ่งเอาจริงๆเกมนี้ผมว่าเป็นเกมที่สนุกที่สุดในยุคนึงเลยนะ การปะทะกันในเกมระหว่างเพื่อนนั้นเกิดขึ้นบ้างก็เป็นสีสันของเกมและทำให้เกมดูตื่นเต้นขึ้นเนอะ แต่เพื่อนๆอย่าปะทะกันในโลกแห่งความเป็นจริงเลยคับ สู้กันในเกมให้เต็มที่ พอมานอกเกมก็กอดคอเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ถ้าทะเลาะกันนอกเกมแล้วไม่มีเพื่อนให้สู้กันในเกมจะเหงานะบอกให้ ^ ^

MakinoJou

คนธรรมดาผู้ชื่นชอบ Japanese Culture, Games, Anime และ Vtuber
Back to top button